อันตรายเชื้อราในช่องคลอด…

Candida Albicans (คารฺนิด้า ออร์บิแคน) เป็นเชื้อราที่พบได้ในช่องคลอดของ
ผู้หญิง ในปาก ในระบบทางเดินอาหาร และ ผิวหนัง

หญิงสาวเริ่มมีอาการและเชื้อรา Candida albicans (คาร์นิด้า ออร์บิแคน)
เชื้อราในช่องคลอด มีมากจำนวนมากกว่าปกติ

เมื่อทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย นานๆ จะรุนแรง จนทำให้เชื้อแบคทีเรีย
ประจำในช่องคลอดเดิมตายลง และ ลดปริมาณของแบคทีเรียลงอย่างมาก
การติดเชื้อราในช่องคลอด ของผู้หญิงเป็นโรคที่พบได้บ่อยครั้ง มักจะไม่หายขาด
เป็นเพราะว่าผู้ติดเชื้อราไม่ใส่ใจ ดูแลอย่างต่อเนื่อง 

ผู้หญิงเป็นโรคติดเชื้อราในช่องคลอดได้ง่าย จากการตั้งครรภ์ การเป็นเบาหวาน
ทำให้ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยจะดีอย่างโรคเอดส์

 

 

การติดเชื้อราในช่องคลอด ไม่ถือว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ 12-15%
ของผู้ชายที่ร่วมเพศกับผู้หญิงที่ติดเชื้อราในช่องคลอดจะเกิดผื่นแดง คันที่องคชาติ
ตามหลังการร่วมเพศ กับคนที่ติดเชื้อติดตัวมาก

การติดเชื้อราในช่องคลอดบ่อยๆอาจจะเป็นตัวบ่งบอกว่า ภาวะความผิดปกติ
ทางสุขภาพ ที่แอบแฝงอยู่ในตัวคน การติดเชื้อราในช่องคลอดที่เป็นซ้ำทันที
ต้องดูแลให้ครบ การติดเชื้อไม่ตอบสนอง ต่อการป้องกัน อาจจะบอกถึงการมี
การติดเชื้อ HIV แอบแฝงอยู่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ติดเชื้อ HIV เริ่มจะเป็น
โรคเอดส์ จะติดเชื้อ Candida Albicans ได้ง่ายทั่วทั้งตัว ไม่ว่าจะที่ในช่องปาก
หลอดอาหารผิวหนัง

 

อาการมีตกขาวที่ผิดปกติ เช่น
1. ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
2. ช่องคลอดมีกลิ่นคาวปลา
3. คันในร่มผ้า
4. ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา
5. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
6. ช่องคลอดแห้ง
7. เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
8. คันที่ช่องคลอด และ ปากช่องคลอด

การตรวจภายใน (PV) จะพบร่องรอยการอักเสบ บริเวณผิวหนัง ที่ปากช่องคลอด
ในช่องคลอด ปากมดลูก และ อาจจะพบคราบสีขาวๆ ติดที่ผนังของช่องคลอด

โรคจะหายได้ ง่ายด้วยการดูแลที่ถูกต้องเหมาะสมภาวะแทรกซ้อน ที่อาจจะเกิดขึ้น
ได้จากการติดเชื้อเรื้อรัง เกิดจากการได้รับการดูแลไม่ถูกต้อง หรือ ไม่เพียงพอ
การติดเชื้อซ้ำ เกิดจากการ ผู้ติดเชื้อชอบ “เกาแกะผิวหนังบริเวณปากช่องคลอด”
อยู่เป็นประจำ ทำให้เกิดแผลแตก เล็กๆ ทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อซ้ำ การป้องกัน
และ หลีกเลี่ยง
1. การทำให้พื้นผิวบริเวณอวัยวะสืบพันธ์เปียกชื้น อยู่เป็นระยะเวลานานๆ
2. ควรใส่กางเกงหลวมๆที่ไม่แน่นรัดรูป จนเกินไป

หมายเหตุ ; พัชมักจะได้รับโทรศัพท์ จากเพื่อนๆ และ น้องๆ นักศึกษาหลายท่าน
อยากขอความกรุณาจากท่านด้วย ว่า ต้องบอกอาการแท้จริง ตรงไปตรงมาอย่าง
ชัดเจน จึงจะสามารถแก้ปัญหาให้คุณได้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้น  คุณและคู่นอนจะต้อง
ไปพบหมอ ทั้งสองคนพร้อมๆกัน กินยาให้ครบโดส ที่หมอให้มา ห้ามลืม ห้ามคิด
ว่าช่างหัวมัน มิฉะนั้นคุณจะเกิดการดื้อยา (หรือไม่มียาใดๆดูแลอาการคุณได้อีก)
เชื่อเราเถอะ

 

ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์

คุณ กฤษฎา (เดียร์)
Tel : 087-6612207
Line : @gelgood

กด ?? ลิงค์ไลน์อัตโนมัติ
ด้านล่างได้เลยครับ

line://ti/p/~@gelgood