ทำไมอาหารเสริมจึงมีบทบาทในการป้องกันโรคมะเร็ง?

อาหารกับโรคมะเร็ง

จากงานวิจัยหลายสำนักทั่วโลก พบว่า พฤติกรรมการกินและสิ่งแวดล้อม มีผลต่อการเกิดโรคมะเร็งถึง 70% ขณะที่พันธุกรรมมีผลเพียง 30% เท่านั้น

อาหารมีบทบาทอย่างไรต่อการเกิดมะเร็ง?

ในอาหารมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพมากกว่า 25,000 ชนิด ซึ่งบางชนิดสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้

อย่างไรก็ตาม ร่างกายแต่ละคนมีความสามารถในการดูดซึม ย่อย และเผาผลาญแตกต่างกัน

หลักการสำคัญในการเลือกกินอาหารเพื่อป้องกันมะเร็ง

  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารซ้ำๆ หรือชนิดเดิมบ่อยเกินไป
  • ไม่ควรเน้นกินอาหารใดอาหารหนึ่งมากเกินความจำเป็น
  • การได้รับสารอาหารที่สมดุล สำคัญกว่าการเน้น “สารอาหารตัวใดตัวหนึ่ง”

กรณีตัวอย่าง — “กรดโฟลิก”

กรดโฟลิกมีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด
แต่หากบริโภคในปริมาณมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิด ได้เช่นกัน

ทำไมอาหารเสริมจึงมีบทบาทในการป้องกันโรคมะเร็ง?

เรากินอาหารทุกวัน แต่อาจไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วน หรือไม่ได้ในปริมาณที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้จริง

ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ

  • รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
  • ได้วิตามินจากอาหารเสริม แต่ดูดซึมไม่ดี
  • ตับขับออกทางปัสสาวะหรืออุจจาระโดยที่ร่างกายไม่ได้ใช้

คุณสมบัติของอาหารเสริมที่ควรเลือก

  • ดูดซึมง่าย
  • ไม่ตกค้างในตับและไต
  • ละลายและเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว
  • กระตุ้นการทำงานของ Stem Cell

มุมมองจากประสบการณ์จริง

ผมขอเล่าประสบการณ์จากคนที่มักมาขอคำแนะนำเมื่ออยู่ใน “ระยะสุดท้าย”

ผู้ป่วยระยะท้ายมักได้รับเพียงการรักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวด ตาเหลือง ท้องโต อาหารไม่ย่อย ฯลฯ ซึ่งมักไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

จึงอยากให้ลูกหลานใส่ใจพ่อแม่ตั้งแต่วันนี้ อย่ารอให้เจ็บป่วยรุนแรงก่อน

แนวทางปฏิบัติ เพื่อดูแลสุขภาพและป้องกันโรคมะเร็ง

✅ รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และครบ 5 หมู่
✅ รักษาความสะอาดร่างกาย สระผม ถูสบู่ เช็ดตัวแห้ง
✅ สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ตากแดดบ่อยๆ
✅ ดื่มน้ำเปล่าสะอาด หลีกเลี่ยงน้ำหวาน กาแฟเย็น และแอลกอฮอล์
✅ ออกกำลังกายวันละ 30-40 นาที
✅ ทำจิตใจให้แจ่มใส ฝึกสมาธิ และลดความเครียด
✅ ป้องกันก่อนเจ็บป่วย ดีกว่ารักษาเมื่ออาการรุนแรง
✅ พิจารณาอาหารเสริมที่ช่วย ฟื้นฟูเซลล์ กระตุ้น Stem Cell

สรุปแนวทางป้องกันมะเร็งด้วยอาหารและอาหารเสริม

  • พฤติกรรมการกินมีผลต่อการเกิดมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญ
  • อาหารเสริมไม่ใช่ทางออกเดียว แต่ช่วยเสริมให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี
  • อย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปี และเริ่มดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้

สั่งซื้อโดยตรงผ่านโทรศัพท์

โทร 087-661-2207 (เดียร์)

Line ID : @gelgood
(กรุณาใส่ @ ด้วย)

หรือ Click เพิ่มเป็นเพื่อน

http://line.me/ti/p/~@gelgood

จากการศึกษาและงานวิจัย อาหารกับการเกิดมะเร็ง ตลอดระยะเวลาหลายปีหลายสำนัก พบว่าการเกิดมะเร็งขนิด ต่างๆทั่วโลกนั้นมี สาเหตุ และ ปัจจัยอาหารและการเกิดมะเร็ง แตกต่างกัน แต่มีสิ่งที่เหมือนกัน คล้ายกัน คือ พฤติกรรม สิ่งแวดล้อม คือ สาเหตุหลักๆ ในการเกิดโรคมะเร็ง ประมาณ 70% และ เกิดจากพันธุกรรมมี เพียง 30 %

ดังนั้น การศึกษาหา และ แนวทางการป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง มีความเชื่อมโยง ระหว่าง อาหารและการเกิดมะเร็ง ได้ระบุว่าตามธรรมชาติ อาหารที่เรากินมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ มีมากมาย ประมาณ 25,000 ชนิดซึ่งจะไม่นำมากล่าวใน Content นี้ได้

ซึ่งได้มีการนำมาใช้ เป็นสารกึ่งยา ได้หลายชนิด แต่ว่ามีข้อจำกัดอยู่ว่าร่างกายของคนเราแต่ละคนมีกระบวนการดูดซึม การย่อยและการเผาผลาญอาหารได้แตกต่างกัน

เริ่มจากการกินอาหาร เพื่อหวังให้เกิดความต้านทาน โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ นั้นต้องจำไว้เสมอว่า ” อย่ากินอาหารอย่างเดียวซ้ำกัน “หรือ ” อย่ากินอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป ”

การคนเรากินกรดโฟลิค บ่อยๆ เพื่อช่วยลดความผิดปกติ ของระบบประสาทที่เกิดบริเวณกระดูกสันหลัง โรคหัวใจ และ โรคหลอดเลือด แต่ถ้ากินมากเกินไปก็อาจเพิ่มการเกิดโรคมะเร็งหลายๆชนิดได้เช่นกัน

อาหารและการเกิดมะเร็ง ควรเสริมอาหารให้กับร่างกาย เพื่อเป็นสื่อกลางการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ชนิดต่างๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการป้องกันจะดีกว่าการดูแล(รักษา)โรคหลาย

ในบางครั้งเรารับประทานอาหารทุกวัน ก็รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ บางวันรับประทานได้มาก แต่ไม่มีประโยชน์ บางวันเสริมวิตามิน แต่ตับไม่รู้ว่ามีประโยชน์ และตับขับออกทางปัสสาวะและ อุจจาระแทน

ดังนั้น การเลือกชื้ออาหารเสริมควรเลือกชื้ออาหารที่ดูดซึมง่าย ไม่ต้องตกค้าง และ รอละลาย ที่ตับและไต

ผมขอแนะนำการรับประทานอาหารจากประสบการณ์ คนส่วนใหญ่มักจะเข้ามาสอบถามอาการเจ็บป่วย ระยะ #4 และ สุดท้าย หมอมักจะดูแล(รักษา) ตามอาการของที่เจ็บป่วย จ่ายยาเท่าที่มีอาการเท่านั้น แต่เมื่อไดก็ตามให้กลับบ้าน (หมออาจจ่ายแค่ยาแก้ปวดเท่านั้น)ท้องโตแข็ง ตาเหลือง ทานอาหารไม่ได้จุกแน่น อาการเหล่านี้ไม่สามารถดูแลให้หายขาดได้

ขอฝากบุตรหลานทุกๆ ท่านที่ได้อ่าน Contentนี้ อย่าปล่อยให้คุณพ่อ-แม่ เจ็บป่วย เนิ่นนาน ป่วยเป็นเรื้อรัง และจนกลายเป็นรุนแรง ในเวลาต่อมาผมขอแนะนำให้เริ่มต้นการดูแลสุขภาพโดยพาท่านไปตรวจสุขภาพ

เริ่มให้รับประทานอาหารเสริม ที่เหมาะสมกับร่างกาย ละลายเร็วซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว ร่างกายนำไปใช้ฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ สร้างเกราะแข็งแรง ให้กับเมล็ดเลือดแดง กระตุ้นสร้าง StemCell ให้ออกมาทำงานมากขึ้น

ข้อควรระวังในการดูแลสุขภาพของเราเอง
1. เลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
2. การักษาสุขภาพกายโดยการอาบน้ำ สระผม ถูสบู่เพื่อขจัดสิ่งสกปรก
ออกจากร่างกาย เช็ดตัวให้แห้งก่อนสวมเสื้อกางเกง
3. เลือกสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับร่างกาย เช่น ผ้าฝ้าย โปร่งเย็นสบาย
ไม่ควรสวมเสื้อซ้ำ ไปมา เสื้อผ้าควรตากแดดอาทิตย์ละ 3-5 ครั้ง
4. ควรดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดทุกครั้งที่กระหาย งดดื่มน้ำหวาน กาแฟเย็น และ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล
5. ออกกำลังให้เหมาะสมร่างกาย ทุกๆวัน ประมาณ30-40 นาที
6. ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด ไม่โกรธ และ ฝึกทำสมธิ
7. การป้องกัน การเสริมภูมิคุ้มกัน ให้กับตัวเราเองก่อนเจ็บป่วย นั้นเป็น
ทางเลือกที่ดีที่สุด กับทุกเพศ ทุกวัย ดีกว่าจ่ายค่ายาในอัตราสูงมาก
8. แนะนำให้ทานอาหารเสริม เพื่อฟื้นฟูเซลล์ กระตุ้นสร้าง StemCell
ให้ออกมาทำงานมากขึ้น

author avatar
D.Krisada ที่ปรึกษาด้านการฟื้นฟูสุขภาพด้วยสารอาหาร
ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการสารอาหารรูปแบบเจลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ ประสบการณ์ดูแลและให้คำปรึกษาผู้ป่วยโรคเรื้อรังยาวนานกว่า 10 ปี ผสานความรู้ด้านโภชนบำบัดกับนวัตกรรมสารอาหาร เพื่อการฟื้นฟูที่เห็นผลจริง มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิต สู่สุขภาพที่แข็งแรงและยั่งยืนสำหรับทุกคน