10 วิธีการแก้แก๊สในกระเพาะอาหาร
เคยเป็นบ้างไหมว่า มีความรู้สึกว่าในกรเพาะอาหาร ของเรามีแก๊สในท้องเยอะ รวมไปถึง
ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ส่วนใหญ่มักเป็นอาการปกติที่เกิดได้ในทุกคน ตั้งแต่เด็กแรกเกิด
จนถึงผู้สูงอายุ
แต่ถ้าในท้องมีแก๊สมากกว่าปกติ จะก่อให้เกิดอาการแน่นอึดอัด เรอ ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ผายลมมากกว่าปกติ รวมถึงอาการปวดท้อง เราขอเรียกว่า”แก๊สในกระเพาะอาหาร”
การเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ในลำไส้ ทำให้มีอาการแน่นอึดอัด ท้องอืด ท้องเฟ้อ
เรอ ผายลม แต่ถ้าแก๊สภายในท้องคนเรา ไม่ถูกขับออกจากร่างกายเลย จะทำให้
กระเพาะเกิดการมีการสะสมภายในระบบทางเดินอาหาร ในบางรายไวต่อการจะเกิดแก๊ส
ทำให้เกิดอาการท้องอืด แม้ว่าจะมีก๊าซในท้องไม่มากสักเท่าไหร่นัก
การเกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหาร ปกติร่างกายคนเรามีระบบการช่วยเหลือ ตนเอง
อยู่แล้วโดยการขับแก๊สออก แบบอัตโนมัติ แต่ถ้าร่างกายไม่มีถูกขับออกมา โดยการ
ผายลม จะทำให้แก๊ส ในระบบทางเดินอาหาร หรือ เกิดจากการมีความเครียด ชอบ
เคี้ยวหมากฝรั่ง มีน้ำมูกไหล ชอบสูบบุหรี่ จะทำให้กลืนลม เข้าสู้ร่างกาย จากการ
เคี้ยวอาหารใม่ละเอียด การใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดี เครื่องดื่มที่มีคาร์บอเนต(น้ำอัดลม)
จะทำให้เกิดแก๊สจากนั้นเชื้อแบคทีเรีย ที่อยู่ในลำไส้อาหารเกิดการย่อยไม่หมด โดย
เฉพาะอาหารพวกแป้ง มีใยอาหารจะไม่ถูกย่อย
เมื่อกากอาหารส่งผ่านไปถึงลำไส้ใหญ่ เชื้อแบคทีเรียจะช่วยย่อย สลายกากอาหาร
น้ำตาล ชนิดต่างๆ หากร่างกายไม่สามารถย่อยกากอาหาร จะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะ
ขึ้นได้
อาหารเหล่านี้มีใยอาหารและแป้งมาก ทำให้ลำไส้เล็กดูดไม่หมด อาหารที่เหลือส่งไปยัง
ลำไส้ใหญ่ เกิดการหมักทำให้เกิดแก๊สในลำไส้ใหญ่
อาหารที่มีใยอาหารสูง และ ไม่เหมาะกินสด ทำให้เกิดแก๊ส กะหล่ำปลี ดอกกำหล่ำ ถั่ว
บร๊อคโคลี หอมใหญ่ หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวสาลีข้าวโอ๊ต ทำให้เกิดอาการท้องอืด หลังจาก
3 สัปดาห์ จะปรับตัวได้ แต่ในบางคนอาการท้องอืด จากการมีก๊าซในลำไส้ ในบางราย
ขาดเอ็นไซม์ทำให้ท้องอืด
แล้วการเรอ บ่อยๆ เกิดจากอะไรนะ ส่วนหนึ่งเกิดจากมีปริมาณแก๊สในกระเพาะมาก
ทำให้กระเพาะขยายตัว มีอาการแน่นท้อง ในบางครั้งบางท่าการเรอ จนติดเป็นนิสัย
แม้ว่าปริมาณแก๊สในกระเพาะจะไม่มากนัก ในบางครั้งจะพบได้บ่อย ๆ เกิดจากกรด
ไหลย้อนในกระเพาะไปยังหลอดอาหารปกติ
เมื่อคนเรากลืนอาหาร จะผ่านจากหลอดอาหารไป ยังกระเพะอาหาร มีหูรูดกั้นไม่ให้กรด
และ อาหารไหลย้อนไปยังหลอดอาหาร เมื่อมีปัจจัยส่งเสริม ทำให้หูรูดหย่อน กรด และ
อาหารจะไหลย้อนไปยังหลอดอาหาร แล้วเราต้องก็กลืนอากาศบ่อย ลมไหลเข้าปากมาก
เกิดการอักเสบ หรือ เป็นแผลที่กระเพาะอาหาร
วันหนึ่งๆร่างกายเราจะผลิตก๊าซวันละครึ่งแกลลอน มีออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซม์
และ ไนโตรเจน อากาศไม่มีกลิ่น แต่ที่มีกลิ่น จากหมักหมมของอาหาร ที่ลำไส้ใหญ่
ทำให้เกิดแก๊ส ไฮโดรเจนซัลไฟต์ หรือกรดอะซิตรก
การเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร เกิดจากการกินอาหารที่มัน อาหารรสจัด หรือ เติม
น้ำส้มสายชูลงในอาหาร ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวช้าเกิดอาการแน่นท้อง งดกินอาหารมัน
ปวดท้องเกิดจากลำไส้ที่ไวต่อการกระตุ้น ทำให้เกิดอาการเกร็งของลำไส้ บางครั้งก็
พยายามที่จะเรอเอาลมออกมา แต่ว่าเป็นการกลืนลมเพิ่มขึ้น เป็นการสะสมแก๊สใน
ลำไส้ใหญ่ ส่งผลทำให้เกิด อาการปวด ที่โรคหัวใจ ต่อเมื่อคุณเรอออก จะทำให้
อาการแน่นท้องดีขึ้น แสดงว่าอาการแน่นท้องเกิดจากก๊าซแต่หาก
อาการท้องอืด ท้องบวม คิดว่าทุกคนคงเคยมีอาการ มีรู้สึก แน่นท้อง ตึง ๆในท้อง
จะมีรู้สึกเหมือนอาหารไม่ย่อย มีอาการเสียดท้อง ถ้ารู้สาเหตุคุณควรรับประทานยา
ให้ตรงกับอาการแน่นท้อง ท้องบวม จะดีขึ้น หรือ อาจเกิดมีน้ำ มีลม ที่เนื้อเยื่อ
บุหัวใจอักเสบ และ อาจมีเนื้องอก ก็เป็นได้
อาการแน่นท้อง มักจะเป็นอาการเรื้อรัง ถ้าเป็นมากขึ้น เรื่อยๆ จะถ้าต้องตรวจหาสาเหตุ
ของอาการท้องอืด จะพบได้บ่อยๆ ว่าลมในกระเพาะอาหาร จำนวนมากไป จะเกิดจากเชื้อ
แบคทีเรีย เจ้าถิ่นตายในลำไส้ ทำให้ร่างกายสร้างแก๊ส มาจากอาหารไม่ย่อย
มีแบคทีเรียในลำไส้มากเกินไป ทำให้ลำไส้เกิดการอุดตัน ทำให้แก๊สไม่สามารถเคลื่อนที่ไป
ลำไส้ใหญ่ได้ นั้นเกิดจากไส้เลื่อนอุดตันมีผังผืดในท้องรัดลำไส้ เกิดอาการปวดท้อง
ท้องอืด อาเจียน ลำไส้เคลื่อนไหวได้ น้อยกว่าปกติ อาการเหล่านี้มัก จะเกิดกับผู้ที่เป็น
โรคเบาหวาน ลำไส้แปรปวน อาหารที่มัน หรือมีกากมาก ผู้ที่มีลำไส้ไวต่อการกระตุ้น
แม้ว่าแก๊สในลำไส้ อาจจะไม่มาก แต่จะมีอาการแน่นท้องเกิดขึ้น
ตัวอย่าง
ฉันเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหา “ท้องอืด”และ “แน่นท้อง” ใช้นิ้วเคาะที่หน้าท้องมีเสียงดังคล้าย
กลองเพาะในมีแก๊สอยู่จำนวนมากในกระเพาะอาหาร อึดอัดมากเลยหล่ะคะ ฉันรำคาญมาก
และ อายเวลาผายลมเสียงดัง แถมมีกลิ่นเหม็นมาก.
มีอาหารหลายๆ เมนู เมื่อกินเข้าไปทำให้ในกระเพาะอาหารเกิดแก๊สจำนวนมาก เกิดตึงแน่น
ที่หน้าท้องถ้ามีอาการนี้คงต้อง ปรับเปลี่ยนอาหาร หลีกเลี่ยง อาการช่วยกระตุ้นการเกิดแก๊ส
ได้ค่ะ เช่น
⏩ การข้าคำดื่มน้ำคำ การทำเช่นนี้ ทำให้คุณกลืนอากาศเข้าสู่กระเพาะอาหาร หลังจากนั้น
ก็จะมีแก๊สในกระเพาะอาหารมากขึ้น ควรดื่มน้ำหลังจากอิ่มอาหาร
⏩ ให้เคี้ยวอาหารช้าๆ การเคี้ยวอาหารเร็วทานเร็วแล้วกลืนอาหารยังไม่ละเอียด จะทำให้
กระเพาะทำงานหนัก ควรเคี้ยวให้ละเอียด ในแต่ละมื้อควรใช้ เวลาทาน อย่างน้อย 20 นาที
เลี่ยงการกินอาหารขณะยืน เดิน และ นั่งดูโทรทัศน์
⏩ การออกกำลังการอย่างหนัก ของนักกีฬาจะมีปัญหาการย่อยอาหารมากๆท้องอืด
มีลมในกระเพาะอาหาร ขณะวิ่งจะหายใจทางปาก ทำให้รับอากาศเข้าท้องมากเกินไป
⏩ ชอบกิน เชอรี่ หัวหอม ผักกาดขาว แอปเปิล เห็ด ข้าวโพด ผักผลไม้ เหล่านี้ ก่อให้เกิด
แก๊สในกระเพาะอาหาร และ ผักอีกชนิดหนึ่งที่สร้างปัญหาเสมอเพราะคุณมักนำมาเป็น ผัก
แกล้ม เช่น“ถั่ว” ลำไส้เล็กย่อยไม่หมด เหลือไปถึงลำไส้ใหญ่ ทำให้แบคทีเรียเจ้าถิ่นสร้างแก๊ส
ขึ้นภายในลำไส้ใหญ่
⏩ ความเครียดและความตื่นเต้น ทำให้เรากลืนอากาศเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
⏩ นม หรือ ชีส มีน้ำตาลแลคโตสจะถูกย่อย ด้วยเอ็นไซม์แลคเตส กระบวนการย่อย
อาหาร ไม่ดีย่อยไม่หมด กากอาหารตกค้าง ทำให้ภานในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่
เกิดแก๊ส มีท้องอืดทันทีนะค่ะ
⏩ การอุ่นอาหารซ้ำ อาหาร พวก แป้งพาสต้า เมื่อเย็นลง แล้วนำไปอุ่นซ้ำอีกครั้งจะทำให้
ย่อยยากต่อเมื่อระบบการย่อยไม่หมด มีอาหารหลงเหลือไปถึงลำไส้เล็ก แบคทีเรียเจ้าถิ่น
ย่อยอาหารไม่หมดคราวนี้นำไปสู่อาการท้องอืดแน่นอน
⏩ ผู้ที่ชอบดื่มเบียร์และไวน์แดง หมักจากยีสต์ ทำให้แบคทีเรียในกระเพาะตายไป ก่อให้
เกิดปัญหาระบบย่อยอาหาร ในไวน์มีสารสีแดงทำให้ระบบย่อยมีปัญหา และแบคทีเจ้าถิ่น
ต่ายและสร้างแก๊ส
⏩ หมากฝรั่ง มีสารไซลิทอลทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
⏩ น้ำอัดลม มีคาร์บอนไดออกไซด์ที่ให้มีความซ่าจะก่อให้เกิดแก๊สโดยตรง
อย่าที่เล่ามาตั้งแต่ต้นแล้วนั้นเป็พฤติกรรมการดื่ม การกินที่เป็นสาเหตุ ทำให้เกิดแก๊สเยอะ
มาก ๆ จักต้องหลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นการเกิดแก๊ส ลดความเสี่ยง ลดความหงุดหงิดใจ
ป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงตามมา
ตามที่พัชเล่มาข้างต้นอาการท้องอืด แน่นท้อง อาการเรอ อาหารเหล่านี้ เกิดจากร่างกาย
ได้มีความผิดปกติเกิดขึ้นเนื่องจากพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิตประจำวัน ติดหรู ชอบ
กินอาหารแบบชาวตะวันตก ชอบกินอาหารรสจัด ชอบปรุงแต่งรสอาหารตามใจฉัน ชอบ
กินอาหารหวานจัดชอบกินอาหารเค็มจัด เหล่านี้ เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแก๊สได้ทั้งหมดเลยคะ
แต่ถ้าคุณมีแก๊สในกระเพาะอยู่เนื่องๆ นานๆ บ่อยๆคุณควรปรึกษาแพทย์ รับยาให้ตรง
กับอาการที่คุณเป็น รับประทานอาหารเช้า อาหารเที่ยงให้ตรงเวลา อาการคุณจะค่อย
ทุเลาลงได้อาการแน่นท้องมักจะเป็นอาการเรื้อรัง จะเป็นมากขึ้น เรื่อยๆ หรือถ้าเป็นมาก
ต้องตรวจหาสาเหตุของอาการท้องอืด มักจะพบได้บ่อยๆ ว่าลมในกระเพาะอาหารจำนวน
มากไป จะเกิดจากแบคทีเรีย
ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
www.gelcremo.com