อุจจาระแปลกไปเตือนโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่!!
พัชมีเพื่อนรักเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เล่าให้ฟังว่า เช้าวันหนึ่งเธอมี อาการปวดเบ่ง
อุจจาระออกแรงเบ่งประมาณ 10 นาที แต่ก็ถ่ายไม่ออก เลยต้องใช้ยาสวนทวาร แต่
ก็ไม่ออก จึงใช้ถุงมือล้วงแคะออก เป็นก้อนๆ ใหญ่แข็งและยาวกว่าปกติ เป็นครั้งแรก
ในชีวิตที่เกิดอาการถ่ายลำบากมาก แต่เมื่อล้วงออกได้จะมีอาการถ่ายไม่สุด อึดอัด
เพื่อนท่านนี้เลยมานั่งทบทวนดูว่า อุจจาระมีขนาดใหญ่ขนาดนี้ มันเกิดจากอะไรขึ้น
ก่อนหน้านี้ฉันกินอะไรเข้าไปบ้างในหนึ่งวัน แล้วสะสมในลำไส้นาน กี่ วันจึงมีจำนวน
มากขนาดนี้
ในหนึ่งวัน คือ ทานสามมืื้ออาหาร ฉันก็กินข้าว+อาหาร+ผัก+ผลไม้+เค็กจากวันเกิด
ฉันกินเข้าไปปริมาณมาก กากใยน้อยต่ำมาก แป้งโปรตีนมากเกินไป ก่อให้เป็นอุจจาระ
ก้อนโตแข็งอัดแน่น จนไม่สามารถ ขับถ่ายออกได้เอง เป็นเพราะว่า เพื่อนท่านนี้เธอมี
พฤติกรรมการดื่มน้ำน้อย ถึง น้อยมาก ขี้เกียดปัสสาวะ จึงทำให้ผิวแห้ง ปัสสาวะนัอย
อุจจาระเป็นกัอนแข็งอัดแน่น จะต้องเบ่งออกลำบาก และ มีเลือดปน ออกมาเมื่อขับถ่าย
ฉันเคยทัองผูก หรือ ถ่ายยาก แต่ว่าฉันมีอาการของโรคริดสีดวงทวาร คือเวลาถ่ายเป็น
เลือดสดปนออกมาเป็นครั้งคราว แต่ถ้ามีการเบ่งอุจจาระแรง ๆ ๆ จะมีเลือดปนออกมาจะ
เป็นอยู่ 1-3 วัน ก็ทุเลาไปไม่ แต่ระยะหลังเป็นบ่อยและนานจึงทุเลา เข้าข่ายเตือนภัยของ
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จนมีปัจจัย ดังนี้ คือ มีอายุมากขึ้น ช่วง อายุ 50 ปีขึ้นไป
ต่อมาหลังจากถ่ายอุจจาระที่คาอยู่ที่ทวารหนักออกแล้ว มีอาการถ่ายออกเป็นมูกใสตาม
มาอีก 3-4 ครั้ง ในวันนั้น วันต่อมาอาการขับถ่ายก็กลับสู่ปกติฉันไม่คิดว่าจะมีโรคร้าย
เกิดขึ้นกับตัวฉันได้
อาการที่ชวนสงสัยอาจเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
? การขับถ่ายผิดแปลกไปจากปกติ อย่างเรื้อรัง นานเกิน 4-5 สัปดาห์
⏩ มีอาการท้องผูก หรือท้องเสียเรื้อรัง
⏩ มีอาการท้องผูกสลับทองเสียเรื้อรัง
⏩ ถ่ายเป็นมูกหรือเลือด หรือ มูกปนเลือดเรื้อรัง
⏩อุจจาระลำเล็กกว่าปกติ หรือ เรียวยาวขนาดเท่า หรือ เล็กกว่าแท่งดินสอ
? มีอาการปวดท้อง ทัองอืด หรือ รู้สึกแน่น อืดอัดทีอง หรือ มีลมในท้อง เป็นๆ
หายๆ เรื้อรัง
? มีอาการปวดเบ่งที่ทวารหนักคล้ายปวดถ่ายอยู่ตลอดเวลา
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
⏩ อายุมากกว่า 50 ปี
⏩ มีประวัติพ่อแม่ หรือ พี่น้องเป็นโรคมะเร็งลำไส้
⏩ กินอาหารที่มีกากใยน้อย ได้แก่ ผัก ผลไม้ และ กินไขมันมาก และ เนื้อแดงมาก
⏩ มีภาวะอ้วน หรือ ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
⏩ ชอบดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือ ขาดการออกกำลังกาย
การป้องกันและการลดปัจจัยต่อการเกิดโรคโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
⏩ ควรจักต้องกินผัก ผลไม้ให้มากๆ ๆ
⏩ ลดการกินอาหารพวกไขมัน และ เนื้อแดง
⏩ หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และ สูบบุหรี่
⏩ ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน
⏩ ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
⏩ ควบคุมโรคเบาหวาน ให้ได้ผล
การตรวจหาโรคมะเร็งระยะแรก
ถึงแม้ว่าสุขภาพแข็งแรงดีไม่มี อาการที่ชวนสงสัยว่า เป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ควรรับการตรวจสุขภาพ ตรวจหาภาวะเลือดแฝงในอุจจาระ คือ ภาวะมีเลือด
ออกเล็กมากในลำไส้ใหญ่ ตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยวิธีการส่องกล้องทุก 5-10 ปี
⏩ ผู้ที่ตรวจพบมีติ่งเนื้อที่ลำไส้ใหญ่ ควรตรวจโรคให้ถี่ถ้วน
⏩ หากตรวจพบมีก้อนมะเร็งขวางอยู่ในลำไส้ใหญ่ ได้รับการตรวจพบระยะแรก
การดูแลจะได้ผลดีไม่ต้องใช้ เคมีบำบัด และ รังสีบำบัด
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ตรวจพบช้าดูแลยาก
EX 1 ผู้สูงวัยอายุมาก เป็นเพศหญิง รูปร่างอ้วน ถ่ายเป็นเลือดสด เป็นครั้งคราว
แทบทุกวันมานาน 2 เดือน ป้าแก่คิดว่า เป็นโรคริดสดวงทวาร ที่เคยเป็นเมื่อ 30 ปี
ที่แล้ว แต่มีข้อแตกต่าง ที่ทุกครั้งจะถ่ายเป็นเลือด อยู่เพียงไม่กี่วัน ก็ทุเลาไปเว้น
2-3 เดือน ก็จะกำเริบเป็นคนครั้งคราว เมื่อมีอาการเบ่ง ถ่ายอุจจาระที่เป็นก้อนแข็ง
หรือ ถ่ายอุจจาระบ่อยเวลาท้องเสีย บางคนไม่คิด…เอะใจว่าอาการคราวนี้แปลกไป
จากเดิม คือ เป็นเรื้อรังนาน…เกินกว่าปกติ จนกระทั้งมีภาวะชีด จากการเสียเลือด
เรื้อรัง เกิดอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด“พบว่าจะป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3″
ไปแล้วค่อยมาพบแพทย์
EX 2 เป็นชายดื่มสุรา สูบบุหรี่ ปกติถ่ายอุจจาระทุกวัน ไม่เคยมีอาการท้องผูกเลย
คนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง อยู่นาน 2 เดือน ต่อมา จะมีอาการ ปวดท้อง รู้สึกแน่น
อึดอัดในท้อง อยู่นานๆ เป็นสัปดาห์ จนรู้สึกทนไม่ไหว “พบว่า เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
ระยะที่ 4 หรือ ระยะสุดท้าย” ซึ่งได้ลุกลามไปที่ตับ แล้วสุดที่จะเยี่ยวยาได้ และ คนที่
เสียชีวิตใน 3 เดือน ต่อมาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่พบได้บ่อยจากมีการขับถ่ายผิดแปลก
กว่าปกติ หรือ ถ่ายอุจจาระปนเลือดเรื้อรัง หรือ อาการอื่น ๆ ที่สงสัยอย่าชล้าใจให้
รีบปรึกษาแพทย์ด่วนเพื่อตรวจ ให้แน่ใจหากพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะแรก ย่อมดี
กว่าระยะสุดท้าย ซึ่งไม่สามารถดูแลได้
https://youtu.be/IA2Ryw5oh-M
การป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารที่มี กากใยสูง หลีกเลี่ยงอาหารบูดเน่า
หรือย่อยยาก ไขมันเยอะ
2. ลดอาหารดองเค็ม อาหารปิ้ง-ย่าง-รมควัน และอาหารที่ถนอมด้วย เกลือไนเตรท
3. ดื่มน้ำสะอาด ให้ได้ 8 -10 แก้ว
4. ออกกำลังกาย กระตุ้นลำไส้ เคลื่อนไหว
5. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน
6. ทำความสะอาดลำไส้โดยการ Detox ลำไส้
เพิ่มภูมิต้านทานกระตุ้นสเต็มเซลล์ในไขกระดูกใหออกมาทำงานมากขึ้น
ช่วยเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสมและเพียงพอในการบำรุงร่างกาย
สารต้านทานอนุมูลอิสระลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลดอาการอักเสบ
ช่วยล้างสารพิษช่วยระบบการย่อย และสร้างภูมิคุ้มกัน
ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
www.gelcremo.com