ฉลาดรู้ฉลาดใช้ภาชนะเซรามิกและสารตะกั่ว
ภาชนะเซรามิกและสารตะกั่ว
“สารตะกั่ว” เป็นโลหะหนัก หากรับเข้าไปในร่างกายปริมาณมากเกินไป
อาจมีพิษต่อระบบประสาท สมอง ไต และ ระบบต่าง ๆ ที่เรียกว่า
“ภาวะตะกั่วเป็นพิษ” เป็นภาวะที่พบได้ในเด็กและผู้ใหญ่ สามารถจะ
ตรวจปริมาณสารตะกั่วในเลือดได้ ในร่างกายควรมีสารตะกั่ว สูงกว่า
80ไมโครกรัมต่อเลือด 100 มิลลิลิตรเป็นภาวะตะกั่วเป็นพิษในร่างกาย
สาเหตุมา จากการสูดดมไอตะกั่ว รับประทาน หรือ สัมผัส สารตะกั่ว เป็น
เวลานานจนร่างกายสะสมสารตะกั่วไว้ จนถึงระดับเป็นพิษ สะสมอยู่ใน
ร่างกายในเลือดในกระดูกและเส้นผม บุคคลทั่วไปที่สัมผัสกับสารตะกั่ว
โดยตรง จะมีโอกาสได้รับจากแหล่งต่างๆ มากมาย ในชีวิตประจำวัน
1. ไม่ว่าจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
2. บริเวณ โรงงานอุตสาหกรรม
3. แหล่งชุมชน
4. ถนนที่มีสภาพการจราจรหนาแน่น
5. การรับประทานสัตว์น้ำ
6.สารตะกั่วปนเปื้อน ในอาหาร ในน้ำดื่มที่นำมารับประทาน
7. ภาชนะเครื่องใช้
8. ที่สัมผัสโดยตรงกับอาหาร แก้ว จาน ชาม ทั้งที่เป็น
9. กระเบื้องเคลือบดินเผาเซรามิก และภาชนะแก้ว
มีปัจจัยหลายปัจจัยที่ต้องคำนึง
การเลือกซื้อก่อนภาชนะชนิดต่างมาใช้งานควรมีมาตรฐานปลอดภัย
มีเครื่องหมายมาตรฐาน กำหนด ยอมรับได้ที่กำหนดชนิดของโลหะหนัก
ตะกั่วและแคดเมียม จะไม่ค่อยแตกต่างกันของปริมาณของตะกั่วและ
แคดเมียม ดังตารางนี้
รายการ | มอก. (ประเทศไทย) | FDA (อเมริกา) | EN (ยุโรป) |
ภาชนะแบบก้นตื้น | 0.8 mg/dm2 | 3 mg/L | 0.8 mg/dm2 |
ภาชนะแบบก้นลึกขนาดเล็ก | 2 mg/L | 1 mg/L | 4 mg/L |
ภาชนะแบบก้นลึกขนาดใหญ่ | 1 mg/L | 1 mg/L | 4 mg/L |
ถ้วยเครื่องดื่ม | 0.5 mg/L | 0.5 mg/L | 4 mg/L |
ขอบของถ้วยเครื่องดื่ม | 4mg/L | 4 mg/L |
ปริมาณตะกั่วที่ต่ำกว่าในเกณฑ์ที่กำหนด ถือว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย
ปริมาณตะกั่ว ต้องกระทำการทดสอบ โดยห้องปฏิบัติ ที่มีมาตรฐาน
เท่านั้น หากเป็นบุคคลทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องไปตรวจเช็คก่อนนำไปใช้
แต่ก็สามารถพิจารณาเลือกซื้อเองได้ในเบื้องต้น ทั้งนี้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์
เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร จะเป็นเซรามิก แก้ว ส่วนใหญ่ผู้ขายสีที่จะนำไป
ตกแต่ง ในกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ภาชนะ ได้พัฒนาการนำวัตถุดิบ
ที่มีตะกั่วมาใช้น้อยลงมาก ไม่มี Lead มาใช้นานแล้ว เพื่อให้สอดคล้อง
กับความต้องการ การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยให้ มั่นใจกับ
ผู้บริโภค ได้ในระดับหนึ่ง เมื่อประมาณ 5 ปี ที่แล้ว เกณฑ์การยอมรับ
ของไทย ยังสูงกว่า นี้มาก คือ ภาชนะแบบก้นตื้น ต้องมี สารตะกั่วได้
ไม่เกิน 1.7 mg/dm2 ภาชนะแบบก้นลึกต้องมีตะกั่วได้ไม่เกิน 5 mg/L
ในการเคลือบภาชนะ ตกแต่งสีสันลวดลาย ให้สวยงามนั้น เมื่อนำสาร
ตะกั่วมาเป็นส่วนผสม นำมาใช้ในการเคลือบภาชนะ ก็จะทำให้ดูเรียบ
มันวาว สีสว่าง ลวดลายที่ตกแต่ง อยู่ใต้เคลือบมีความสวยงามชัดเจน
ขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้มีความแข็งแรง ส่วนในการตกแต่งนั้น ตะกั่ว
จะเป็นส่วนผสมของสีร้อนต่าง ๆ ภาชนะเซรามิก แบบใดที่เสี่ยง ต่อการ
มีสารตะกั่ว ปริมาณสูงไม่สามารถบอกว่าภาชนะใดมี สารตะกั่วมากน้อย
ได้ด้วยสายตา
ข้อสังเกต
ภาชนะบางชนิดที่มีแนวโน้มจะมีตะกั่วสูง **ยกเว้นแต่ว่า ผลิตจากเคลือบ
ไร้สารตะกั่วดังนั้น ภาชนะที่มี การตกแต่ง สีสันลวดลาย ที่มีการตกแต่ง
สีสันลวดลาย ด้านในมีแนวโน้มที่อาจจะสัมผัสกับอาหาร และ เครื่องดื่ม
โดยตรงรวมถึง ที่มีการตกแต่ง บริเวณขอบ ถ้วยเครื่องดื่ม ทั้งด้านในและ
ด้านนอกภาชนะ ที่มีการตกแต่งสีสันลวดลาย บนผิวเคลือบ แทนที่จะเป็น
ใต้เคลือบถ้ามีลักษณะหยาบ หรือ นูน รู้สึกได้เพียงแค่ลูบด้วย ปลายนิ้ว
เห็นรอยเหนือผิวเคลือบ ก็เป็นไปได้ว่ามีการตกแต่งบนผิวเคลือบภาชนะที่
เคลือบเสื่อม หรือ หลุด มีลักษณะปกคลุมด้วยฝุ่นสีเทาขาวตกค้าง บริเวณ
ผิวเคลือบหลัง จากล้างทำความสะอาด
ภาชนะสีขาวส่วนใหญ่จะสกัดไม่ค่อยพบตะกั่ว
**การตกแต่งลวดลายสีสันภายนอกของภาชนะ ส่วนที่ไม่สัมผัสกับอาหาร
ส่วนใหญ่ก็จะไม่เป็นปัญหา ในการนำมาใช้ แต่อย่างใด ข้อมูลนี้ ใช้เสริม
เป็น ข้อมูลความรู้ และ ดำรงชีวิตอย่างฉลาด เนื่องจากเรารับสารตะกั่วได้
จากหลายทาง หากไม่สัมผัส สูดดม โดยตรง กว่าจะแสดงผล ก็อายุมาก
แล้ว อาจจะสียชีวิต ด้วยโรคอื่นๆ ก่อนตะกั่ว จะมากพอที่จะออกฤทธิ์ อาจ
จะมีอายุ 80 ปี ไปแล้ว (นอกจากได้รับโดยตรงปริมาณมากๆ)
**แต่ทว่าก็ไม่ควรละเลยสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาเช่นกันหากร่างกายมีภูมิคุ้มกัน
ปกติดี ร่างกาย สามารถขับตะกั่ว ออกได้เต็มที่ ประมาณ 2 มก. ต่อ วัน ออก
ทางปัสสาวะ75-80 %ผ่านกระบวนการของไต ขับออกทางเหงื่อ น้ำดี น้ำนม
และ ขับถ่ายประมาณ 15 %
อาการทั่วไปเมื่อร่างกายรับสารตะกั่วเข้าสู่ร่างกายแบบสะสมและเรื้อรัง
1. ร่างกายอ่อนเพลีย
2. ผิวชีส
3. น้ำหนักตัวลด
4. เบื่ออาหาร
5. คลื่นไส้ อาเจียน
6. ลิ้นมีรสโลหะ น้ำลายมาก
7. เหงือกบวม
8. ปวดท้องสลับกับท้องเดิน
9. กล้ามเนื้อเป็นตะคิว กระตุก ปวดตามข้อ
10. ทำลายระบบสมองและไตวาย
คำแนะนำในการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน
ปกติร่างกายของมนุษย์ทุกคน มีการดูแล ป้องกัน ระบบต่างๆ ภายใน
ร่างกายโดยอัตโนมัติ ที่เรียกว่า“ภูมิคุ้มกัน”แต่ถ้าเมื่อใดก็ตาม ภูมิคุ้มกัน
ยังแข็งแรงมากพอร่างกายขับออก ได้หมด โดยธรรมชาติมนุษย์เกิด มา
มักมีความอยากเกินความจำเป็น จึงทำให้มีอาการป่วย โดยไม่จำเป็น
เสียเงิน เสียเวลา แต่ถ้าครเราหันมาดูแลการบริโภค ให้ดีก็สามารถทำ
ให้ร่างกายแข็ง แรงได้เช่นกัน
ขอขอบพระคุณข้อมูลดีเลิศจาก
– www.ratchakitcha.com
– สำนักงานพัฒนาข้อมูลข่าวสารสุขภาพ
– เครื่องครัวที่อาจก่อให้เกิดอัยตรายต่อสุขภาพได้
– ภาพจากอินเตอร์เน็ต
นวัตกรรมสารอาหารสุขภาพ สาร สกัดจากธรรมชาติ 100 % สามารถดูดซึม
เข้าสู่ร่างกายได้เต็มใที่ สารออกฤทธิ์เร็ว รับประทานง่าย
พบทางออกด้วยการใช้สารอาหารบำบัด
คอร์สบำบัด และดีท๊อกซ์ สารพิษออกจากตับ และ
ร่างกาย เพิ่มออกซิเจนให้กับเลือด
เพียงทานAGEL GRN วันละ 1 ซอง ตอนตื่นนอน
ข้อมูลผลิตภัณ์เพิ่มเติม>>>
https://www.gelcremo.com/gel-product/gel-grn/
**หนึ่งกล่องมี 30 ซอง ทานได้ 1 เดือน
เพียงทานAGEL EXO วันละ 1 ซอง ก่อนตื่นนอน(19.00-21.00 น)
ข้อมูลผลิตภัณ์เพิ่มเติม>>>
https://www.gelcremo.com/gel-product/gel-exo/
**หนึ่งกล่องมี 30 ซอง ทานได้ 1 เดือน
เห็นผลภายใน30วันโดยตรวจสอบจากการตรวจวัดค่าเลือดก่อนทานและหลังทาน
>>การทานให้เห็นผลควรทานอย่างต่อเนื่อง4-8เดือนและวัดค่าจากอาการของผู้ป่วย[ผู้ป่วยแต่ละท่านทานมากทานน้อยขึ้นอยู่กับระยะของโรคการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยเพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจน]
ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
www.gelcremo.com
ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
www.gelcremo.com