ตับคุณจะอยู่นานแค่ไหน
เชื่อเถอะครับตับแข็งมีผลต่อการย่อยอาหาร
โรคตับแข็งเป็นโรคเรื้อรัง ที่เกิดจากเซลล์ตับ จำนวนมากถูกทำลาย กลาย
เป็นเนื้อเยื่อพังผืดเหนี่ยว เนื้อตับส่วนที่ตาย จะสูญเสียหน้าที่ถาวร เนื้อเยื่อ
พังผืดยังไปบดเบียดดึงรั้งเนื้อตับส่วนดี ด้วยรวมถึงการเบียดบังหลอดเลือด
ภายในตับโรคตับแข็ง ตับจะมีลักษณะแข็ง ขรุขระ เป็นตะปุ่ม ตะป่ำ ใหญ่
บ้าง เล็กบ้าง มีไขมันแทรกด้วย มีความดันในตับ และ เส้นเลือดที่ผ่านตับ
นั้นสูงกว่าปกติ
ครับผม…อาการโรคตับแข็ง จะแสดงออกตาม ระยะของโรคแบ่งเป็น
4 ระยะคือ
ระยะที่ 1 ระยะแรก ไม่มีอาการชัดเจน แต่จะมีอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ
คล้ายอาหารไม่ย่อยเป็นประจำ และ จะมักจะคิดไปว่าตนเองแค่ ๆ อาหาร
ไม่ย่อย ต่อมาเมื่อตับถูกทำลายมากขึ้นอีกหน่อย ผู้ป่วยจะมีอาการ ต่อไปนี้.
1. คลื่นไส้ อาเจียน
2. เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
3. ปากคอแห้ง
4. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เพราะมีของเสียคั่งค้างจากการที่ตับขจัเสารพิษ
ออกได้น้อย
5. เริ่มดีซ่าน(ตัวเหลือง ตาเหลือง)เกิดขึ้นเนื่องจากเนื้อเยื่อพังผืดในตับ
บีบรัดทางเดินน้ำดี ภายในเนื้อตับจึงเกิดน้ำดีคั่ง
6. คันตามตัวจากน้ำดีคั่ง และของเสียอื่นๆคั่งค้าง
7. ตับเริ่มโตและแข็ง
8. ผลตรวจการทำงานของตับผิดปกติ ควรได้รับการตัดชิ้นเนื้อตับ ออก
มาตรวจ และ จะพบว่าเป็นตับแข็งระยะแรก
ระยะที่ 2 เซลล์ตับถูกทำลาย เป็นจำนวนมากขึ้น ก็จะมีอาการของตับแข็ง
แต่รุงแรงขึ้นมีอาการการอักเสบ และ ตับแข็งรุนแรงขึ้น มีพังผืดมากขึ้น
ระยะที่ 3 มีอาการรุนแรงขึ้น และ เริ่มมีท้องมาน เท้าบวม ช่วงนี้จะมีอาการ
เจ็บปวดตรงตำแหน่งตับ การย่อยอาหารไขมันลดลงอย่างชัดเจนการดูดซึม
วิตามินเอ ดี อี เค ที่ละลายในไขมันลดลงชัดเจน
ระยะที่ 4 เป็นโรคตับแข็ง ระยะสุดท้าย จะมีอาการแทรกซ้อนต่าง ๆชัดเจน
เช่น
4.1 ความรู้สึกทางเพศลดลง มีหนวด เสียงแหบห้าว เต้านมโต กดเจ็บ
4.2 ฝ่ามือแดงผิดปกติ หรือ จุดแดงที่หน้าอก หน้าท้อง หรือ ตามัว
จริง ๆ แล้วนะครับ ผู้ป่วยโรคตับ เมื่อตรวจพบว่าป่วยด้วยโรคตับอักเสบ
ตับแข็ง แต่ถ้าหากต้องการมีชีวิตอยู่ต่อสัก10 ปี ควรจะต้องกลับตัว กลับ
ใจเสียใหม่หันมาดูแล ร่างกายตนเอง เพิ่มการสร้างภูมิต้านทาน ปรับทาง
ด้านโภชนาการการกินเสียใหม่ เปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่เสียใหม่ ก่อนจะ
สายเกินไป จึงจะอายุยืนยาวต่อไปอีกได้
ภาวะแทรกซ้อนในระยะสุดท้ายของโรคตับแข็ง
มักเกิดขึ้นในผู้ป่วย ที่ปฎิบัติตน ไม่ดี จะมีอาการแทรกซ้อน ที่สร้าง
ความทุกข์ทรมาน ดังต่อไปนี้
1. กล้ามเนื้อลีบลง รูปร่างซูบผอม เพราะร่างกาย ขาดสารอาหาร
อันเกิดจากตับเผาผลาญอาหารนำมาใช้ไม่ได้
2. ท้องบวมมาก(ท้องมาน)
3. มีน้ำคั่งในช่องปอด ถ้าปอดอักเสบด้วย จะมีไข้ และเจ็บปวดหน้าอกมาก
4. มีนิ่วในถุงน้ำดี ทางเดินน้ำดีอุดตัน จากคอเลสเตอรอล ตกตะกอนเป็น
ก้อนนิ่ว
5. มีริ้วลายหลอดเลือดเขียว ๆ ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ชัดเจนที่ท้อง เกิดจาก
เลือดจากทางเดินอาหารที่ตักรองไปอุดตัน
6. หลอดเลือดโปร่งพอง หรือ ขอด เกิดขึ้นที่ขา ที่หน้าท้อง เพราะแรง
ดันของ หลอดเลือดดำ ในตับเพิ่มมากขึ้น
7. อาเจียนเป็นเลือดสด เนื่องจากหลอดเลือดขอดแตก ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
8. ม้ามโต และ เกล็ดเลือดต่ำ ส่งผลให้เลือดออกง่าย ที่ทางเดินอาหารมี
จุดแดง จ้ำ เขียว ตามตัว
9. ความดันของหลอดอาหารน้ำเหลืองในตับสูงขึ้น
10. ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ติดเชื้อโรคง่าย
11. ไวต่อการเกิดพิษจากยา และ สารพิษต่างๆ
12. มีอาการทางสมอง ซึม เพ้อ หมดสติ ตับเสียหายมากขึ้น
เมื่อป่วยเป็นโรคตับแข็งจะแสดงความรุนแรงของโรคดังนี้
1. ถ้ามีอาการเท้าบวม หรือ ท้องมาน
2. คันตามผิวหนัง
3. ความดันในเลือดสูง มีภาวะเส้นเลือดโปร่งพอง ในกระเพาะอาหาร
4. อาเจียนเป็นเลือดรุนแรง ต้องทำห้ามเลือดรีบด่วน
5. ตับเสียหายมาก ไม่สามารถขับของเสียได้
6. มีภาวะทางสมองของของเสียคั่ง ซึม เพ้อ ปัสสาวะเรี่ยราด มือสั่น
หลงลืม
เมื่อพบว่า มีอาการดังกล่าวข้างต้น แล้วนั้น ให้รีบไปตรวจ เพื่อป้องกัน
โรคตับ เนื่องจากว่ามีปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบ โรคตับแข็ง
และ อาจต้อง ป้องกันภาวะไขมันสะสมในตับ ไขมันสะสมในเลือดสูง
โรคเบาหวาน โรคแทรกซ้อนจาก ทารัสซีเมีย ภาวะโรคท่อน้ำดีอุดตันจาก
นิ่ว มีเนื้องอก ภาวะหัวใจวายเรื้อรัง ทำให้เลือดคั่งที่ตับ โรคภูมิต้านทาน
ต่อตนเอง
เตือนภัยเสี่ยงโรคตับมี 6 ข้อเพื่อฟื้นฟูดูแลตับ กลับมาแข็งแรงเช่นเคย
1. เลิกดื่มเหล้า แอลกอฮอล์ทุกชนิดที่เป็นตัวบ่อนทำลายตับ แค่คุณ
“ พักตับ ”เลิกดื่ม ก็ช่วยให้ตับไม่ต้องทำงานหนักและฟื้นฟูกลับมาแข็งแรง
ได้อย่างรวดเร็ว
2. เข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่ม เพราะในช่วง เวลา 22.00-02.00 น. เป็นช่วงที่ตับ
จะ ซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุด
3. ไม่ควรทานยา หากไม่จำเป็น เพราะยาเป็นสิ่งที่ทำลายตับโดยตรง
4. ขับถ่ายให้เป็นเวลา เพราะอาการท้องผูกจะทำให้ตับทำงานมากขึ้น
5. ไม่ควรทานอาหารที่ปรุงแต่ง ใส่สีผสมอาหาร วัตถุกันเสีย น้ำตาลเทียม
6. อย่าให้อ้วน และอย่ากินอาหารคาร์โบไฮเดรตสูง ปริมาณมาก เพราะ
อาจจะเสี่ยงเป็นไขมันแทรกในตับได้
การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงมีความจำเป็นต่อร่างการมากจะสามรถ
ทำให้ร่างกายขับของเสียได้อีกทางครับ
http://www.gelcremo/cancer-article/pigments/
นวัตกรรมใหม่ของ สาร อาหารสุขภาพ สาร สกัดจากธรรมชาติ 100%
สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เต็มที่ สารออกฤทธิ์เร็ว รับประทานง่าย
พบทางออกที่ดีด้วยการใช้สารอาหารบำบัดแบบเจล
คอร์ส บำบัด ผู้ป่วย โรคตับอักเสบ ตับแข็ง ติดเชื้อ
เพียงทาน AGEL UMI วันละ 1 ซอง เวลา09.00-11.00น
ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม >>>
https://www.gelcremo.com/gel-product/agel-umi/
*หนึ่งกล่อง มี 30 ซอง ทานได้ 1 เดือน
เพียงทาน AGEL EXO วันละ 1 ซอง เวลาก่อนนอนเช้า
ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม >>>
https://www.gelcremo.com/gel-product/agel-exo/
*หนึ่งกล่อง มี 30 ซอง ทานได้ 1 เดือน
เห็นผลภายใน 30 วัน โดยตรวจสอบจากการ ตรวจวัดค่า ก่อนทาน และหลังทาน
>> การทานให้เห็นผลควรทานอย่างต่อเนื่อง 4-8 เดือน และ วัดค่าจากอาการ
ของ ผู้ป่วย
[ผู้ป่วยแต่ละทานทานมากมาน้อยชึ้นอยู่กับระยะของโรคและการดูแลสุขภาพ
ของผู้ป่วยเพื่อเห็นผล อย่างชัดเจน]
ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
www.gelcremo.com
ผลลัพท์จากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ AGEL UMI
AGEL UMI EXO มะเร็งตับ ระยะสุดท้าย
https://youtu.be/8mVfltaFz8s
AGEL UMI มะเร็งตับ ระยะ4 ไม่มีแรง บำรุงสุขภาพดีขึ้น มีแรง กินข้าวได้
ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
www.gelcremo.com