กินอาหารอย่างไรให้พอดีกับร่างกาย
“กินมื้อเช้า-ออกกำลังกายตอนเช้า” ทำแต่พอดี
ประเทศไทยเป็นอีกประเทศหนึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” คาดว่า
อีกประมาณ 8 ปีข้างหน้า จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่าง สมบูรณ์แบบ จะมี
จำนวนผู้สูงอายุมาก ถึง 14.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% ของจำนวนประชากร
ทั้งหมดอาจส่งผลทำให้เกิดปัญหา เรื่อง สุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น
โรคหัวใจ เบาหวาน และ ความดันโลหิตสูง เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การดูแลสุขภาพในช่วงระยะหลัง
เป็นเรื่องที่ดี ที่คนในยุคนี้ เริ่มต้นหันมาดูแล ตนเองมากขึ้น ก่อนจะเกิด
โรคตามมา หมั่นดูแลสุขภาพร่างกาย ตนเองให้ถูกต้อง บางครั้งความเชื่อ
แบบเดิมๆ เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคตามมาไม่รู้ตัว
1. การทานอาหารมื้อเช้า ส่วนใหญ่ มักเข้าใจว่า การทาน อาหารมื้อเช้า
ต้องทานในปริมาณที่เยอะที่สุด ในความจริง การทานอาหาร หนึ่งมื้อหนักๆ
ทำให้ระบบของร่างกายทำงานหนัก ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ การรับประทาน
อาหารแต่ละมื้อ ควรมีปริมาณที่พอเหมาะ สามารถทานได้บ่อยครั้ง ควรแบ่ง
เป็นมื้อย่อยๆ หลายๆ มื้อ เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้
อย่างเต็มที่
**กินเท่าไหร่ถึงพอเหมาะ ปริมาณอาหารที่เหมาะสมใน 1 วัน
1. ผู้สูงอายุ เด็กอายุ 6-13 ปี หญิงวัยทำงาน 1,600 Kcal/วัน
2. วัยรุ่นชาย/หญิง ชายในวัยทำงาน 2,000 Kcal/วัน
3. ผู้ใช้แรงงาน ชาย/หญิง 2,400 Kcal/วัน
4. ต่อจากนั้นก็มาดูว่า จะกินอย่างไรให้สมดุลยปริมาฌพอดี ซึ่งต้องดูจาก
ปริมาณอาหารในแต่ละกลุ่ม
5. ปริมาณเครื่องปรุงควรจะต้องดูแลให้ถูกต้อง
– ปริมาณน้ำตาลต่อวันไม่เกิน วัยเด็ก 4 ช้อนชา และ วัยผู้ใหญ่ 6 ช้อนชา
– น้ำมันไม่เกิน 65 กรัมหรือไม่เกิน 16 ช้อนชา
– โซเดียม2300มิลลิกรัม หรือ 1 ช้อนชา
การปรับนิสัยการกินของตนเอง ไม่กินของหวานจัด มันจัด เค็มจัด เพิ่ม
การกินผักและผลไม้ให้มากขึ้น เป็นการเริ่มต้น ที่ดี สำหรับการกินอะไร
ได้มากน้อยแค่ไหน เป็นคำถามที่ต้องตอบ คำว่า “พอดี” ของแต่ละคน
ไม่เท่ากัน
2. การออกกำลังกาย อย่างหักโหมในตอนเช้า มีเชื่อว่าออกกำลังกายใน
ตอนเช้า จะทำให้เลือดสูบฉีด ได้ดีในความเป็นจริงเรา ไม่ควรออกกำลัง
กายหนักจนเกินไป เช่น การวิ่งติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ แต่ควรเลือกออก
กำลังกาย แบบคาร์ดิโอ เพื่อเป็นการวอร์มร่างกาย ในช่วงเช้าให้ทำงาน
อย่างมีสมดุลตลอดทั้งวัน
**ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ใช้เวลา 50 นาที จะใช้พลังงาน ประมาณ
350 Kcal. คาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกาย ที่ไม่เน้นการใช้พลังงานจาก
มัดกล้ามเนื้อ มุ่งเน้นการขยับเขยื้อนร่างกาย ซึ่งมีผลต่อการเต้นของหัวใจ
ที่เร็วขึ้น**
“สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่เราเข้าใจผิดกันมาตลอด แต่เพียงแค่เรารู้จักปรับ
ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ก็สามารถช่วยให้สุขภาพ เราดีขึ้นและมีชีวิตที่
ยืนยาวขึ้นด้วย”เสี่ยงการเกิด โรคหัวใจ เบาหวาน และ ความดันโลหิต
พบทางออกด้วยสารอาการบำบัด
คอร์สบำบัดโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิต
www.gelcremo.com/gel-product/gel-umi
www.gelcremo.com/gel-product/gel-hrt
ขอขอบคุณข้อมุลชั้นดีจาก
– หมอชาวบ้าน
-ภาพจากอินเตอร์เน็ต