Asthma

……โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจที่เป็นกันมาก  นอกจากภูมิแพ้แล้ว  หอบหืดก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน  สามารถเกิดกับทุกเพศ ทุกวัย และเกิดขึ้นได้บ่อยเมื่อคุณมีความเครียด หรือเป็นผลจากโรคบางอย่าง เช่น  หลอดลมอักเสบ ปอดบวม

อาการของโรคหอบหืด

  • หายใจเข้า- ออกลำบาก
  • หายใจมีเสียงวี้ด วี้ด
  • ไอ
  • จุก แน่นหน้าอก
  • หัวใจเต้นเร็วขึ้น
  • กล้ามเนื้อบริเวณหลอดลมหดเกร็งตัว
  • เยื่อบุทางเดินหายใจบวม อักเสบ
  • มีการผลิตสารคัดหลั่งบริเวณทางเดินหายใจมากกว่าปกติ
  • อาจนอนหลับได้ไม่สนิท เนื่องจากไอและรู้สึกหายใจไม่สะดวก

……ทั้งนี้ในแต่ละคนอาจมีอาการแตกต่างกันออกไป หรือแม้แต่การเป็นในแต่ละครั้งก็อาจมีอาการไม่เหมือนกัน

สาเหตุของภาวะหอบหืด

……ช่วงที่ไม่มีอาการของโรคหอบหืด ผู้ป่วยจะเหมือนคนปกติ ไม่หอบ ไม่แน่นหน้าอก เล่นกีฬาได้ แต่เมื่อผู้ป่วยได้รับสารที่เป็นภูมิแพ้ผู้ป่วยจะเกิดอาการหอบ แน่นหน้าอก และไอ สำหรับสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้แบ่งได้เป็นหัวข้อดังนี้

  • สารภูมิแพ้ในบ้าน
  • สารภูมิแพ้นอกบ้าน

สารภูมิแพ้ในบ้าน

……แม้ว่าบ้านจะเป็นที่ปลอดภัยสำหรับตัวท่าน หากคุณเป็นโรคหอบหืด บ้านก็อาจจะเป็นแหล่องที่กระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืด คุณควรจะจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม สารก่อภูมิแพ้หลายชนิดเช่น รา เกสรดอกไม้ มลภาวะ ก็สามารถพบได้ในบ้านของท่าน หากคุณทราบชนิดของสารภูมิแพ้ต้องพยายามหลีกเลี่ยงสารภูมิแพ้ต่างๆ เนื่องจากหากได้รับสารภูมิแพ้นานๆทำให้โรคหอบหืดกำเริบเฉียบพลันได้บ่อยและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

Animal Allergen

……สารภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยงเช่น สุนัข แมว หนู นก สารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ได้แก่ รังแค ขน ปัสสาวะ อุจาระ น้ำลาย หากคุณแพ้คุณควรที่จะป้องกันดังต่อไปนี้

  • ย้ายสัตว์และขนสัตว์ออกจากบริเวรบ้าน ถ้าไม่สามารถย้ายออกจากบ้านให้ เอาขนสัตว์ออกจากห้องนอน
  • ปิดประตูห้องนอนติดเครื่องกรองอากาศที่มีแผ่นกรองHEPAก่อนที่อากาศจะเข้าห้อง
  • ไม่ใช้พรมในห้องนอน
  • อาบน้ำให้สัตว์อาทิตย์ละสองครั้ง
  • ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรองHEPA
  • หู้มปลอกหมอนและเตียงด้วยสารป้องกันภูมิแพ้
  • เลี้ยงปลาได้

About pets and asthma

……โปรตีนจากผิวหนัง ปัสสาวะ อุจาระ น้ำลาย ขนของสัตว์ เช่นสุนัข แมว หนู และสัตว์เลือดอุ่นสามารถกระตุ้นให้กิดโรคหอบหืด วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือไม่นำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงในบ้าน และทำความสะอาดบ้านทั้งพรมและผ้าม่าน

……แต่บางท่านไม่นำสัตว์เลี้ยงไว้ห้องนอน หรือนำเลี้ยงในห้องที่มีพรมสำหรับบางท่านก็ทำให้หอบหืดดีขึ้น

ข้อแนะนำ

  • หาที่อยู่ใหม่ให้สุนัขและแมว
  • ไม่ควรจะให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน
  • หากสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านก็ไม่ควรจะเข้าห้องนอน
  • ไม่ควรจะให้สัตว์เลี้ยงอยู่บนม้านั่ง เตียงนอน
  • ดูดฝุ่นเมื่อผู้ที่เป็นโรคหอบหืดไม่อยู่บ้าน

ไรฝุ่น

……พบไรฝุ่นมากในที่มีความชื้นสูง พบร่วมกับฝุ่นที่มาจากเสื่อ หมอน พรม ผ้าคลุมเตียง เสื้อผ้า ตุ๊กตาควรจัดห้องให้ปลอดฝุ่นวิธีป้องกันไรฝุ่นทำได้ดังนี้

  • หุ้มหมอน เตียง เสื่อด้วยสารป้องกันภูมิแพ้
  • ล้างปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียงทุกสัปดาห์โดยใช้น้ำร้อนมากกว่า 55 ํC
  • ลดความชื้นของห้องนอนให้น้อยกว่า 50%โดยใช้เครื่องลดความชื้น
  • นำพรมออกจากห้องนอน
  • ไม่ควรนำตุ๊กตาไว้ในห้องนอน ควรจะล้างทุกอาทิตย์ด้วยน้ำร้อน
  • ดูดฝุ่นทุกสัปดาห์

แมลงสาปCockraches Alergen

……เป็นสาเหตุที่ทำให้หอบหืดเป็นมากขึ้น น้ำลาย ปัสสาวะ อุจาระ ผิวหนังของแมลงสาบเป็นสารภูมิแพ้สำหรับบางคน ควรกำจัดแมลงสาบให้หมดจากบ้าน ไม่ควรเหลือเศษอาหารให้แมลงสาบ อาหารควรเก็บไวในถุงที่ปิดสนิท ควรใช้กับดักหรือกรงมากกว่าสารเคมีเพราะอาจเกิดการแพ้ได้ จัดการรูรั่วของประปา

ข้อแนะนำ

  • ทำความสะอาดอ่างล้างจาน โต๊ะสำหรับปรุงอาหาร และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร
  • ล้างจานให้สะอาดและนำเศษอาหารไปทิ้งนอกบ้าน
  • เก็บอาหารให้มิดชิด
  • การใช้ยาฆ่าแมลงก็อาจจะมีผลเสียต่อผู้ป่วย

Food Allergies

……ผู้ป่วยที่แพ้อาหารนอกจากทำให้เกิดผื่น ปวดท้อง ท้องเสียยังทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก วิธีป้องกันคือ จำให้ได้ว่าแพ้อาหารอะไรแล้วหลีกเลี่ยง ให้อ่านสลากเพื่อดูส่วนผสมว่ามีสิ่งที่แพ้หรือไม่

Indoor Fungi

……เชื้อรามีมากในที่ชื้น และอากาศถ่ายเทไม่ดี เช่นห้องน้ำ ห้องเก็บของ ควรแก้ไขท่อน้ำที่รั่ว ทำความสะอาดบริเวนที่มีเชื้อรา ลดความชื้นในห้องนอนให้น้อยกว่า50%

  • ทำความสะอาดบริเวณที่คิดว่ามีเชื้อรา เช่นห้องน้ำ ห้องครัวอาจจะใช้ยาฆ่าเชื้อรา
  • ระบบถ่ายเทน้ำต้องไม่มีการขัง
  • ใช้เครื่องลดความชื้น
  • ใช้พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ ห้องครัว
  • ลดการปลุกต้นไม้ ใช้ดอกไม้พลาสติกแทนดอกไม้จริง
  • ทำความสะอาดท่อระบายน้ำทุก 5 ปี

สารเคมี

……สารเคมีที่ใช้ในบ้านอาจจะกระตุ้นให้อาการหอบหืดเป็นมากขึ้น เช่น กลิ่นสี ยาฆ่าแมลง สเปรย์แต่งผม รวมทั้งควันบุหรี่ ควันจากเตาไฟ

สารNitrogen Dioxide

……ก๊าซไนตรัส ออกไซด์ Nitrogen dioxide (NO2) เป็นก๊ายที่ไม่มีกลิ่น ก๊ายนี้จะทำให้ระคายเคืองต่อตา เยื่อบุจมูก ทางเดินหายใจ และกระตุ้นทำให้เกิดโรคหอบหืด ก๊ายนี้มาจากเตาชนิดต่างๆเช่น เตาแก๊ส เต้าน้ำมันกาด เตาไม้หรือถ่าน ควันเสียรถยนต์ ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดจะทำให้กำเริบได้ และทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ

ข้อแนะนำ

  • เตาควรอยู่นอกบ้าน
  • หากอยู่ในบ้านให้เปิดเครื่องดูดอากาศทุกครังที่ใช้เตา

โรคหอบหืดที่เกิดจากงาน

……ผู้ที่เปลี่ยนงานแล้วเกิดโรคหอบหืด หรือมีอาการหอบเมื่อเข้าที่ทำงาน แสดงว่าท่านอาจจะแพ้สารเคมีในโรงงาน ผู้ที่ทำงานในโรงงานเหล่านี้จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืด

……ผู้ที่แพ้ แป้ง ธัญพืช ไม่ควรมีอาชีพ ช่างทำขนมปัง นักเคมี ชาวไร่

……แพ้สัตว์ แมลง เชื้อราไม่ควรมีอาชีพ เลี้ยงสัตว์ พนักงานห้องทดลอง

……แพ้สารเคมี ไม่ควรมีอาชีพ ทำงานเกี่ยวกับน้ำมัน เครื่องเย็น ช่างแต่ผม พนักฟอกย้อม

……แพ้โลหะ และ Isocynates ไม่ควรทำงานกับการพ่นสีรถยนต์ ตู้เย็น เครื่องพิมพ์

……ยา ไม่ควรทำงานในโรงงานยา

มลภาวะนอกบ้าน

……มลภาวะนอกบ้านมักจะเกิดจากฝุ่นขนาดเล็กในอากาศที่เกิดจากรถ อุตสาหกรรม ควัน เกสรดอกไม้ เมื่อสูดดมหายใจเข้าไปก็จะกระตุ้นทำให้หอบหืดกำเริบ

ข้อแนะนำ

  • ให้ติดตามสภาพอากาศ หากไม่ดีก็ไม่ควรจะออกนอกบ้าน
  • ตรวจสภาพอากาศก่อนออกกำลังกาย
  • จัดตารางงานในเวลาที่อากาศดี
  • หากอากาศไม่ดีให้อยู่ในบ้าน ปิดหน้าต่าง และเปิดเครื่องปรับอากาศ
  • เฝ้าอาการกำเริบของโรคหอบหืด

สารภูมิแพ้นอกอาคาร Outdoor Allergen

……เมื่ออยู่นอกบ้านคุณไม่สามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมได้ คุณไม่สามารถทำความสะอาดสนามหญ้า หรือใช้เครื่องกรองอากาศ แต่สิ่งที่คุณสามารถทำได้ก็คือการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสภาวะบางอย่าง สิ่งแวดล้อมนอกบ้านที่เป็นปัญหาได้แก่เกสรดอกไม้ หญ้า ต้นไม้ สปอร์ของรา

เชื้อรา Moulds

……เชื้อราสามารถให้หอบหืด โดยเฉพาะสปอร์ของเชื้อราสามารถลอยไปในอากาศ เมื่อคนที่เป็นโรคหอบหืดสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการ จาม คัดจมูก แน่นหน้าอก ไอ จนกระทั่งหอบหืด หากท่านแพ้เชื้อราควรจะปฏิบัติดังนี้

  • เก็บกวาดหญ้าให้สะอาดหลังจากการตัดหญ้า
  • เก็บกวาดใบไม้ที่ร่วงล่นให้หมด
  • เก็บกวาดขยะ กระป๋องรอบบ้านให้หมด รวมทั้งวัสดุที่จะอุ้มน้ำ
  • ทางเดิน หรือสนามหญ้าไม่ควรให้ชื้นตลอดเวลา

เกสรดอกไม้

……เกสรดอกไม้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้บ่อย เกสรอาจจะมาจากดอกไม้ หญ้า เมื่อดูดเข้าไปก็จะเกิดอาการหอบหืดวิธีป้องกัน

  • ใช้เครื่องกรองอากาศที่มีแผ่นกรองHEPA
  • ช่วงที่มีเกสรดอกไม้มากให้ปิดหน้าต่างและเปิดเครื่องปรับอากาศ
  • งดออกกำลังกายกลางแจ้ช่วงมีเกศรดอกไม้มาก
  • ช่วงที่มีเกสรดอกไม้มากเมื่อกลับถึงบ้านให้เปลี่ยนเสื้อ
  • หลีกเลี่ยงการปลูกต้นไม้ใกล้หน้าต่าง
  • อย่าตากผ้ากลางแจ้ง
  • อย่าดมหรือจับต้องดอกไม้ที่คุณสงสัยว่าจะแพ้

อากาศเย็น

……ผู้ที่แพ้อากาศเย็น หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอาจจะเกิดอาการหอบได้ วิธีป้องกันทำได้โดย

  • ให้หายใจผ่านทางจมูกเพราะจะทำให้อากาศอุ่นขึ้น
  • หากต้องหายใจทางปาก ต้องสวมหน้ากากเพื่อเพิ่มความชื้นให้อากาศ
  • ช่วงอากาศเย็นให้ออกกำลังกายในบ้าน
  • ควรหลีกเลี่ยงบุหรี่ ควันไฟ กลิ่นสี กลิ่นน้ำหอม กลิ่นสารเคมี เตาแก๊ส

Sulfite Sensitivity

……ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงเบียร์ ของดอง ผลไม้แห้งเพราะอาจทำให้เกิดหอบหืดได้

Infections

……ผู้ป่วยหอบหืดควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปีเนื่องจากไข้หวัดใหญ่ทำให้หอบหือเป็นมากขึ้น

ยา

……เช่นยา NSAID เช่น aspirin brufen diclofenac ยากลุ่มbetablockเช่น propanolol atenolol metoprolol

Rhinitis/Sinusitis

……ผู้ป่วยที่มีไซนัสอักเสบหรือเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ควรได้รับการรักษาด้วยยา Antihistamine/decongestant หรือยาพ่นsteroid ทางจมูก

การรักษาภาวะหอบหืด

……การรักษาทางธรรมชาติ จะใช้อาหารที่ช่วยลดการอักเสบและการอุดตันบริเวณทางเดินหายใจ ซึ่งได้แก่ พวกผัก-ผลไม้สด  เมล็ดธัญญพืช  ปลา

……สารแคโรทีนอยด์ ซึ่งพบในผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้ม เช่น แครอท มะละกอ ฟักทอง  และในผักที่มีใบสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า  สามารถต้านการอักเสบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดอันตราย หรือความเสื่อมของเซลล์ซึ่งเกิดก่อนกำหนดได้อีกด้วย

……กระเทียมและหัวหอม มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ  ซึ่งหัวหอมและกระเทียมจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อรับประทานร่วมกับผักต่างๆ

……เมล็ดปอบด เป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า-3  ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ดี   นอกจากเมล็ดปอแล้ว โอมาก้า-3 ยังพบได้ในปลาทูน่า ปลาแมคคอเรล ปลาเฮอร์ริ่ง  ปลาเทราซ์ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีนและน้ำมันปลาที่ผลิตจากปลาเหล่านี้

……การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 1 แก้ว ทุกๆ 2 ชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้เร็วขึ้น นอกจากนี้การดื่มน้ำหลังจากเกิดภาวะหอบหืดยังช่วยละลายเยื่อเมือกที่อุดตันทางเดินหายใจ

……อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป เพราะในอาหารเหล่านี้มักจะใส่สารปรุงแต่งรส วัตถุกันเสีย สีเพื่อให้เก็บได้นานขึ้น และดูน่ารับประทานมากขึ้น

……ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีอาการท้องเสียเมื่อดื่มนม( หรือที่เรียกว่า อาการแพ้นม)ก็ตาม  แต่การดื่มนมจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเมือกออกมาอุดทางเดินหายใจมากขึ้นทำให้ภาวะหอบหืดรุนแรงขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรดื่มนม  นอกจากนี้ควรเลี่ยงการรับประทานน้ำตาล อาหารขยะ อาหารทอด อาหารสำเร็จรูป

……อย่ากินอาหารแช่แข็งหรืออาหารที่เย็นมากๆ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจหดเกร็งตัวมากขึ้น

……ควรกินอาหารแต่ละมื้อในปริมาณแค่พอเหมาะ เพราะถ้ารับประทานมากเกินไป จะทำให้เกิดแรงดันที่บริเวณกะบังลม ทำให้หายใจลำบากขึ้น

……นอกจากการบำบัดด้วยอาหารแล้ว การขจัดสารพิษออกจากร่างกายก็มีส่วนช่วยได้ไม่น้อย ทุกๆ 3 เดือน ควรอดอาหารและดื่มเฉพาะน้ำผัก-ผลไม้ เป็นเวลา 3 วัน เพื่อที่จะกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย

……การฝึกหายใจ มีส่วนช่วยได้ไม่น้อย  ซึ่งวิธีการฝึกหายใจมีหลายวิธีด้วยกัน คุณสามารถดูได้จากบทความเรื่อง “หายใจเพื่อชีวิต”

……การบำบัดด้วยน้ำมันหอมระเหย ยูคาลิปตัส ลาเวนเดอร์ ทีทรี จะช่วยลดการบวมและช่วยขยายทางเดินหายใจ

……ถึงแม้ว่าภาวะหอบหืดจะรบกวนคุณภาพชีวิตของคุณ  แต่เราสามารถที่จะบรรเทาอาการได้ด้วยวิธีง่ายๆที่คุณสามารถช่วยตนเองได้โดยไม่ต้องใช้ยา